เพื่อนสมาชิกสหภาพแรงงานและพนักงานที่รักทุกท่าน

เนื่องจากมีสมาชิกและพนักงานมีข้อสงสัยและสอบถามมายังสหภาพจำนวนมากว่า  เมื่อสมัครเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานแล้วจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างไร  สหภาพจึงเรียนให้ทุกท่านได้ทราบโดยสังเขปถึง “ความคุ้มครองตามกฎหมายและว่าด้วยสิทธิที่จะได้รับเมื่อสมัครเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน” ซึ่งความคุ้มครองและสิทธิดังกล่าว เป็นไปตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518  และสหภาพจะจัดสัมมนาโดยเชิญอาจารย์ด้านกฎหมายแรงงานมาเป็นวิทยากร   เพื่อให้สมาชิกได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

1. สหภาพแรงงานคืออะไร สหภาพแรงงาน คือ องค์กรระดับต้นของพนักงาน โดยพนักงานรวมตัวกันจัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์  พ.ศ. 2518 โดยมีวัตถุประสงค์

– เพื่อแสวงหาและคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง

– เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างและระหว่างลูกจ้างด้วยกัน

2. ก่อตั้งสหภาพขึ้นเพื่ออะไร ก่อตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ดูแลและแก้ไขปัญหาต่างๆของพนักงาน  เช่น  ปรับปรุงสภาพการทำงานให้ดีขึ้น และ

มั่นคง  ยกระดับรายได้  ค่าจ้าง สวัสดิการให้เป็นไปตามกฎหมายและมีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนเพื่อให้คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้น

3. ทำไมต้องเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงานประสงค์ให้พนักงานเป็นสมาชิก   เพราะสาเหตุที่พนักงานทุกคนต้องการความมั่นคงในการทำงาน   ซึ่งหมายถึง

– ต้องการมีรายได้ค่าตอบแทนที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์  และผลงาน  โดยมีโครงสร้างที่แน่นอน

– ต้องการสภาพการทำงานที่ดีมีสวัสดิการที่สนองตอบความจำเป็นขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิต

– ต้องการมีส่วนร่วมในการกำหนดระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน

– ต้องการความก้าวหน้าตามความรู้ความสามารถ  และมีความมั่นคงในการทำงาน

– ต้องการมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ในฐานะเป็นหน่วยหนึ่งในสังคม  พนักงานแต่ละคน หรือหน่วยงานแต่ละหน่วยงานไม่อาจทำหน้าที่แทนพนักงานได้ทั้งหมด  แต่เมื่อพนักงานรวมตัวกันจัดตั้งสหภาพขึ้นก็สามารถแก้ไขกติกาในการทำงานให้ทันสมัยและเป็นธรรมต่อพนักงาน

4. สมัครเป็นสมาชิกแล้วได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง เมื่อสมัครเป็นสมาชิกสหภาพแล้วจะได้รับสิทธิและประโยชน์ ดังนี้

– สิทธิในการคุ้มครองให้มีสภาพการจ้างที่เท่าเทียมกับเพื่อนร่วมงานอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้าง  เงินเดือน  ค่าล่วงเวลา ตลอดจนสวัสดิการและความปลอดภัยในการทำงานที่ธนาคารต้องจัดให้พนักงาน  สหภาพแรงงานจะเป็นตัวแทนรักษาสิทธิเหล่านี้ให้

– สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ เมื่อมีกรณีพิพาทแรงงาน หรือการกระทำอันไม่เป็นธรรมจากนายจ้าง

– สิทธิที่จะได้รับการพัฒนาตนเองตามหลักสูตรที่สหภาพจัดขึ้น  หรือร่วมกับองค์กรอื่นจัดขึ้น  รวมทั้งเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆของสหภาพ

– สิทธิในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพ สิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการสหภาพ และสิทธิในการตรวจสอบการทำงานของสหภาพตามข้อบังคับ

5. เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานแล้วกฎหมายคุ้มครองอย่างไร

– ห้ามมิให้นายจ้างเลิกจ้าง  หรือกระทำการใดๆ  อันอาจเป็นผลให้ลูกจ้าง ผู้แทนลูกจ้าง กรรมการสหภาพแรงงาน ไม่สามารถทนทำงานอยู่ต่อไปได้ เพราะเหตุที่ลูกจ้าง หรือ สหภาพได้นัดชุมนุม  ยื่นข้อเรียกร้อง ฯลฯ

– ห้ามมิให้นายจ้างเลิกจ้างหรือกระทำการใดๆ  อันอาจเป็นผลให้ลูกจ้างไม่สามารถทนทำงานอยู่ต่อไปได้ เพราะเหตุที่ลูกจ้างนั้นเป็นสมาชิก

สหภาพแรงงาน

– ห้ามมิให้นายจ้างขัดขวางในการที่ลูกจ้างนั้นเป็นสมาชิกหรือให้ลูกจ้างออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน

– ห้ามมิให้นายจ้างขัดขวางการดำเนินการของสหภาพแรงงาน  หรือขัดขวางการใช้สิทธิของลูกจ้างในการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน

– ห้ามมิให้นายจ้างเข้าแทรกแซงในการดำเนินการของสหภาพแรงงานโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย

6. ถ้าไม่เป็นสมาชิกสหภาพจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายหรือไม่  พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์  2518 ให้ความคุ้มครองสมาชิกอย่างเต็มที่    และให้อำนาจสหภาพแรงงานฟ้องร้องดำเนินคดีแทนสมาชิก  กรณีที่สมาชิกถูกกระทำอันไม่เป็นธรรมจากฝ่ายนายจ้าง  โดยที่บุคคลซึ่งเป็นสมาชิกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ …. สำหรับบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพ ก็ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน  แต่หากเกิดการกระทำอันไม่เป็นธรรมจากฝ่ายนายจ้าง หรือฟ้องร้องดำเนินคดี  บุคคลนั้นต้องดำเนินการเอง  และเสียค่าใช้จ่ายเอง สหภาพแรงงานไม่มีอำนาจตามกฎหมายและไม่มีสิทธิใดๆที่จะเข้าไปดำเนินการแทนได้

7. เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานแล้วมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานหรือไม่ ไม่มี เพราะสหภาพแรงงานถือเป็นความลับตามกฎหมาย   และการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานสัมพันธ์  และเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นสากลในสังคมปัจจุบัน

8. สหภาพแรงงานช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้จริงหรือไม่ สหภาพแรงงานจะให้ความคุ้มครองแก่สมาชิกอย่างเต็มที่ทุกกรณีที่เกิดจากการกระทำอันไม่เป็นธรรมจากนายจ้าง  เว้นแต่บุคคลดังกล่าวจะกระทำความผิดตามมาตรา ๓๑  (๑)  ถึง  (๔)  แห่ง พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518

9. ฝ่ายนายจ้างมีสิทธิขอตรวจสอบรายชื่อบุคลที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานหรือไม่พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์  2518  มาตรา 13  วรรคสาม

บัญญัติไว้ว่า ในกรณีที่ลูกจ้างเป็นผู้แจ้งข้อเรียกร้อง ข้อเรียกร้องนั้นต้องมีรายชื่อและลายมือชื่อของลูกจ้างซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของลูกจ้างทั้งหมด …. แต่ในกรณีที่สหภาพแรงงานเป็นผู้แจ้งข้อเรียกร้อง  ข้อเรียกร้องนั้นไม่จำต้องมีรายชื่อ และลายมือชื่อลูกจ้างซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้อง

ฝ่ายนายจ้างขอตรวจสอบรายชื่อได้หรือไม่ หากสหภาพแรงงานยื่นข้อเรียกร้องตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว  ถ้าฝ่ายนายจ้างสงสัยว่า สหภาพแรงงานมีจำนวนสมาชิกครบตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่  นายจ้างอาจยื่นคำร้องโดยทำเป็นหนังสือให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานตรวจรับรอง  เมื่อพนักงานประนอมฯได้รับคำร้องดังกล่าวแล้ว  ให้ดำเนินการตรวจหลักฐานทั้งปวงว่าสหภาพแรงงานนั้นมีสมาชิกครบหรือไม่  ถ้ามี ให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานออกหนังสือรับรอง  มอบให้ผู้ยื่นคำร้องเป็นหลักฐาน ถ้าไม่มี  ให้พนักงานประนอมฯ แจ้งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบ  และถือว่าข้อเรียกร้องนั้นเป็นอันตกไป

กรณีที่พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานออกหนังสือรับรอง  มอบให้ผู้ยื่นคำร้องเป็นหลักฐาน พนักงานประนอมฯ จะแจ้งยอดสมาชิกเป็น

ตัวเลขเท่านั้น ไม่ใช่แจ้งเป็นรายชื่อของบุคคล เพราะพนักงานประนอมฯต้องเก็บไว้เป็นความลับตามกฎหมาย แต่หากแจ้งชื่อบุคคลที่เป็นสมาชิกสหภาพให้ฝ่านายจ้างทราบ  พนักงานประนอมฯ มีความผิดตามกฎหมาย

10. ใครเป็นเจ้าของสหภาพแรงงาน สหภาพแรงงานเกิดขึ้นจากการรวมตัวของพนักงานจำนวนไม่น้อยกว่าสิบคนเป็นผู้เริ่มก่อการ และบริหารโดยพนักงานซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพ     ดังนั้นสมาชิกทุกคนคือเจ้าของสหภาพ  มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายและข้อบังคับ  ถ้าไม่มีสมาชิกหรือสมาชิกมีไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด  สหภาพก็ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมหรือเรียกร้องสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกได้

11. ทำไมสหภาพต้องเก็บค่าสมัครและค่าบำรุงรายปี สมาชิกต้องจ่ายค่าบำรุงเพื่อให้สหภาพแรงงานของท่านได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆได้โดยราบรื่น   เช่น    ค่าจัดทำเอกสาร   ข่าวสารสหภาพ   ค่าเครื่องเขียน   ค่าแบบพิมพ์   ค่าจัดประชุมใหญ่    ค่าพาหนะ   ค่าฝึกอบรมสัมมนา   ค่าสวัสดิการสมาชิก  หรืออื่นๆ  และเป็นเงินกองทุนไว้สำหรับช่วยเหลือสมาชิกด้านกฎหมายในกรณีที่มีเหตุต่าง ๆ  กล่าวโดยย่อคือ ท่านจ่ายค่าบำรุงเพื่อให้สหภาพแรงงานสามารถบริหารเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกนั่นเอง

12. คณะกรรมการสหภาพได้รับผลประโยชน์จากเงินค่าสมัครค่าบำรุงหรือไม่  คณะกรรมการทุกท่านไม่มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ใด ๆ จากเงินค่าสมัครและค่าบำรุงที่ท่านจ่ายเข้ามา  ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้าง   เบี้ยประชุม  ค่าอาหาร  หรืออื่น ๆ และไม่มีสิทธินำเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตนไม่ว่ากรณีใด ๆ   แต่จะเก็บไว้เพื่อใช้ประโยชน์แก่สมาชิกดังที่ได้กล่าวไว้แล้วใน ข้อ 10.

13. ถ้าสมาชิกสหภาพมีปัญหาสามารถติดต่อหรือร้องเรียนได้ที่ใด สามารถติดต่อได้ที่กรรมการสหภาพทุกท่านหรือที่สำนักงาน หรือหากต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นคณะกรรมการยินดีให้คำปรึกษา  และเชิญผู้รู้มาให้คำปรึกษาเพิ่มเติมได้อีกด้วย

14. คุณสมบัติของผู้สมัคร  หลักฐานการสมัคร  และค่าสมัคร  ค่าบำรุงรายปี

การชำระค่าสมัครและค่าบำรุงสมาชิก ค่าสมัคร 20 บาท       ค่าบำรุง 200 บาท/ปี

คุณสมบัติของผู้สมัคร : พนักงานระดับ Officer ลงมา และ Officer ที่ไม่ได้เป็นหัวหน้า

โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์  SCB สาขาชิดลม เลขที่บัญชี 001-5-13952-7

หรือ โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน เลขที่บัญชี 111-2-78363-9

ชื่อบัญชี สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์

เงินสด ผ่านกรรมการ/อนุกรรมการสาขา ชื่อ ………………………………………..……… นามสกุล………………………………………………….

ส่งหลักฐานการสมัคร (ใบสมัคร, สำเนาบัตรพนักงาน+รับรองสำเนาถูกต้อง, สำเนาสลิปการโอนเงิน) ไปที่

สหภาพแรงงาน ตู้ปณ. 67 ปณฝ. เสนานิคม กรุงเทพฯ 10902 เอกสารของท่านถือเป็นความลับตามกฎหมาย

15. สมาชิกภาพของสมาชิกสหภาพสิ้นสุดเมื่อ ตาย  ลาออก  ที่ประชุมใหญ่ให้ออก  ฝ่าฝืนข้อบังคับ

เพื่อนสมาชิกและพนักงานที่รัก   “ สหภาพจะเข้มแข็งและก้าวหน้า   ทุกคนต้องศึกษาและเสียสละ ”  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านด้วยการสมัครเป็นสมาชิกสหภาพ   เพื่อให้สหภาพได้ทำหน้าที่ในการปกป้องสิทธิของทุกท่านได้อย่างเต็มที่